เป็นตลับกระจกที่ใช้เทคนิคการประดับตกแต่งในสมัยนั้นอย่างเต็มที่เช่นเดียวกับอุโบสถสีทอง มันถูกผลิตขึ้นที่ฮิราอิซูมิ แสดงให้เห็นว่าฮิราอิซูมิในสมัยนั้นมีความงามของงานศิลปหัตถกรรมสุดละเอียดละออมารวมตัวกันอยู่
อุโบสถสีทองล้วนที่สร้างขึ้นโดยมีรากฐานจากผงทองใน “มิจิโนกุ” ซึ่งการแปรรูปทองนั้นแรกเริ่มเดิมที ได้ใช้ผลผลิตจากทั้งในและต่างประเทศแบบไม่กลัวเปลือง รวมถึงใช้เทคนิคการประดับตกแต่งในสมัยนั้นอย่างเต็มที่ ตระกูลโอชูฟูจิวาระซึ่งเป็นผู้สร้างได้ใช้ “ทองคำ” ที่เปล่งแสงสวยสง่าออกมาโดยไม่ใช่เพื่อโอ้อวดถึงทรัพย์สมบัติ แต่เพื่อแสดงออกถึงดินแดนในอุดมคติอันปรารถนาถึงโลกที่เท่าเทียมและสงบสุขปราศจากการต่อสู้แย่งชิง และยังกล่าวกันว่าเป็นต้นแบบของ “บ้านเรือนและพระราชวังทองคำ” ที่ปรากฏอยู่ใน “จิปัง ประเทศแห่งทองคำ” อีกด้วย
เป็นอุปกรณ์ที่ถูกใช้ในการแปรรูป “เศษผงทองจากมิจิโนกุ” ที่เก็บสะสมมาให้เป็นผงทอง ซึ่งทองที่แปรรูปมาก็ถูกนำมาใช้กับภาพวาดลงรักและสีผงทอง ในสมัยนั้น เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นดินแดนในอุดมคติอย่างเป็นรูปธรรมที่ฮิราอิซูมิ จึงมีการรวบรวมทองคำที่ผลิตได้ไปพร้อมกับเทคนิคงานฝีมือที่สวยงามเพื่อใช้ประโยชน์จากมันอย่างเต็มที่
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้หลอม “เศษผงทองจากมิจิโนกุ” ที่เก็บสะสมมาได้ ส่วนทองที่ถูกหลอมก็นำไปใช้เป็นผลิตภัณฑ์ทองสำริด ในสมัยนั้น เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นดินแดนในอุดมคติอย่างเป็นรูปธรรมที่ฮิราอิซูมิ จึงมีการรวบรวมทองคำที่ผลิตได้ไปพร้อมกับเทคนิคงานฝีมือที่สวยงามเพื่อใช้ประโยชน์จากมันอย่างเต็มที่
เป็นงานศิลปหัตถกรรมแบบดั้งเดิมที่ถ่ายทอดเทคนิคการแปรรูปทองและงานช่างทองแบบที่คอนจิกิโด (อุโบสถสีทอง) มาจนถึงปัจจุบันนี้ เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดมาจากการที่ฟูจิวาระ โนะ ฮิเดฮิระได้เชิญช่างฝีมือจากเกียวโตเข้ามา แล้วให้ทำภาชนะที่วิจิตรตระการตาขึ้นมาจากการใช้ผงทองที่ผลิตมาได้อย่างไม่กลัวเปลือง