เป็นศิลาจารึกบทกวีที่ตั้งอยู่ภายในเขตศาลเจ้าโคกาเนะยามะ มันได้จารึกบทกวีมันโยของโอโทโมะ โนะ ยากาโมจิที่ได้ประพันธ์ถึงความยินดีในการผลิตทองออกมาได้ไปพร้อมกับพระจักรพรรดิโชมุ ซึ่งประพันธ์ไว้ว่า “ทอง” ที่ผลิตขึ้นมาได้บน “ภูเขาในอำเภอโอดะ (ตำบลวาคุยะในปัจจุบัน)” ได้ถูกขนย้ายมาที่เมืองนาราที่อยู่แสนไกลและกลายมาเป็นเรื่องน่ายินดีระดับชาติ ถือว่าเป็นศิลาจารึกบทกวีที่เป็นสัญลักษณ์แห่ง “ทองคำในมิจิโนกุ”
ภูเขาศักดิ์สิทธิ์โนโนะดาเกะ (236 เมตร) ที่ตั้งอยู่ตรงใจกลางพื้นที่ตำบลวาคุยะ มีแม่น้ำที่ผลิตทองออกมาอย่างเช่นแม่น้ำโคกาเนะซาวะไหลผ่าน ตามที่ปรากฏในบทกวีมันโยว่าผลิตทองได้บน “ภูเขาที่อยู่ในอำเภอโอดะ (ตำบลวาคุยะในปัจจุบัน)” ก็เป็นที่แน่ชัดว่าธุรกิจการขุดทองเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นได้ขยับขยายขึ้นมาโดยมีภูเขาแห่งนี้เป็นฉากสำคัญ
ซากอุโบสถที่ตั้งอยู่ในเขตโคกาเนะยามะ เป็นพระอุโบสถที่สร้างขึ้นในพื้นที่การขุดทองหลังจากได้รับฟังพระราชดำรัสจากพระจักรพรรดิโชมุเกี่ยวกับการผลิตทองครั้งแรกในญี่ปุ่นว่าเป็น “สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงให้พร” ถือเป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญที่ยืนยันว่าดินแดนนี้เป็นสถานที่แห่งแรกในญี่ปุ่นที่ผลิตทองขึ้นมาได้
เป็นกระเบื้องมุงหลังคาที่ถูกใช้ในพระอุโบสถที่สร้างขึ้นในโบราณสถานการผลิตทองคำโคกาเนะยามะ จากรูปทรงของกระเบื้องบ่งบอกได้ว่าพระอุโบสถทรงกลมได้ถูกสร้างขึ้น และจากการที่มีกระเบื้องที่ระบุปีศักราชว่า “เท็มเปียว” ประกอบอยู่ ทำให้ทราบว่าช่วงปีที่ก่อสร้างพระอุโบสถอยู่ในช่วงรัชสมัยเท็มเปียว ถือเป็นวัตถุล้ำค่าที่ถ่ายทอดเนื้อหาใจความของโบราณสถานออกมาได้อย่างเป็นรูปธรรม
เป็นผงทองที่ผลิตได้จากภูเขาโนโนะดาเกะในตำบลวาคุยะ ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากแหล่งแร่ส่วนรองที่มีผงทองทับถมอยู่ในชั้นดิน เป็นแร่ที่บ่งชี้ให้เห็นว่าประวัติศาสตร์การขุดทองในญี่ปุ่นเริ่มต้นมาจาก “การร่อนทอง” โดยผงทองที่เริ่มสกัดออกมาได้เป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 749 นั้นได้ถูกนำมาใช้เป็นวัสดุสำหรับเคลือบพระไวโรจนพุทธะที่วัดโทไดจิ
ภูเขาโนโนะดาเกะที่ได้รับการประเมินว่าเป็น “ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการคุ้มครองจากพระพุทธเจ้า” จากการผลิตทองคำขึ้นมาได้เป็นที่แรกในญี่ปุ่นนั้น เมื่อมาถึงสมัยเฮอันก็ได้ถูกเชื่อมโยงเข้ากับความศรัทธาต่อภูเขาและตระหนักรับรู้กันว่าเป็น “แดนศักดิ์สิทธิ์ที่นำความสงบเรียบร้อยมาสู่มิจิโนกุ” ส่วน “วัดคอนโปจิ” ซึ่งเป็นวัดบนภูเขานั้น แม้จะมาถึงปัจจุบันซึ่งเวลาผ่านมานับ 1,250 ปีจากการก่อตั้ง ก็ยังคงปกป้องคุ้มครองยอดเขาซึ่งเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ “ห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิต” เรื่อยมา และกลายมาเป็นสถานที่สำคัญของความเชื่อความศรัทธาในท้องถิ่น วัดคอนโปจิถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงการยกระดับไปสู่การเป็นเป้าหมายแห่งความเชื่อความศรัทธาที่ปรารถนาให้เกิดความมั่นคงในท้องถิ่น ในระหว่างที่ภูเขามีชื่อเสียงขจรกระจายจากการผลิตทองและได้กลายมาเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ในที่สุด