เรื่องราวของทองคำมิชิโนะกุ

เมืองอิชิโนะมากิ (Ishinomaki City、石巻市) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดมิยางิ มีชายฝั่งติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก สมัยเอโดะอิชิโนะมากิเป็นเมืองที่รุ่งเรืองและเป็นที่รู้จัก ในฐานะท่าเรือหลักและศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้า ที่เชื่อมต่อการขนส่งทางแม่น้ำและทางทะเลเข้าด้วยกัน ปัจจุบันอิชิโนะมากิยังคงเป็นเมืองท่าสำคัญในการทำประมงเชิงพาณิชย์
ปี 2011 เมืองอิชิโนะมากิได้รับผลกระทบอย่างมากจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในภูมิภาคโทโฮคุ ทำให้อาคารบ้านเรือนและสถานที่สำคัญหลายแห่งได้รับความเสียหาย ปัจจุบันสถานที่เหล่านั้นได้รับการบูรณะฟื้นฟู จากความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชนและชาวเมือง จนกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

พิพิธภัณฑ์เมืองอิชิโนะมากิ・石巻市博物館

พิพิธภัณฑ์ที่บอกถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองอิชิโนะมากิ ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ จนถึงสมัยใหม่ ในหัวข้อ “แม่น้ำและทะเล” นอกจากนี้ยังมีส่วนจัดแสดงชีวประวัติและผลงานของ ทาคาฮาชิ เออิคิชิ ศิลปินนักแกะสลักไม้ ชาวเมืองอิชิโนะมากิ มีการรวบรวมผลงานของเขาที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ นำมาจัดแสดงไว้ที่นี่

พิพิธภัณฑ์การ์ตูนอิชิโนะโมริ・石ノ森萬画館

อาคารสีขาวทรงกลมรูปร่างแปลกตา คือที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์การ์ตูนอิชิโนะโมริ ภายในจัดแสดงผลงานและชีวประวัติของ อิชิโนะโมริ โชทาโร่ ศิลปินชาวมิยางิ ผู้สร้างสรรค์ผลงานการ์ตูนที่มีชื่อเสียงไว้มากมาย เช่น คาร์เมนไรเดอร์ ไซบอร์ก009 จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งมังงะ”
นอกจากนี้ยังมีส่วนจัดแสดงนิทรรศการชั่วคราว ที่เวียนจัดแสดงผลงานของศิลปินท่านอื่น และยังสามารถเพลิดเพลินไปกับห้องสมุดที่รวบรวมหนังสือการ์ตูนไว้มากมาย ใครที่เป็นสาวกการ์ตูนมังงะไม่ควรพลาดพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

ศาลเจ้าคิงคะซัง โคกะเนะยะมะ・金華山黄金山神社

ศาลเจ้าคิงคะซังโคะกะเนะยะมะ เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 3 แห่งของโทโฮคุ　ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ บนคาบสมุทรโอชิกะ ชื่อว่าเกาะคิงคะซัง เดินทางด้วยเรือสปีดโบ๊ทจากท่าเรืออายุคาวะ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการขุดพบแร่ทองคำเป็นครั้งแรกของญี่ปุ่น เมื่อประมาณ 1,300 ปีก่อน ได้รับการเคารพบูชาในฐานะที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแห่งทองคำ และเชื่อว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้าแห่งการเงินและเทพเจ้าแห่งความโชคดีอีกด้วย จึงได้รับความศรัทธาในฐานะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ใครที่มีความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ควรพลาดสถานที่แห่งนี้ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยพาวเวอร์สปอตหรือจุดเสริมพลังชีวิตและโชคลาภ　ว่ากันว่าหากไปสักการะศาลเจ้าแห่งนี้ต่อเนื่อง 3 ปี จะไม่ลำบากเรื่องเงินไปอีกเลยตลอดชีวิต

เมื่อเดินทางถึงผู้เขียนตะลึงกับกวางที่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากบนเกาะ กวางเหล่านี้ได้รับการอนุรักษ์ เพราะมีความเชื่อว่าเป็นผู้รับใช้ของเทพเจ้า และยังมีลิงที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติอีกด้วย
ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีอาคารพักรับรองสำหรับผู้ที่ต้องการพักค้างแรม ตอนเช้าตรู่จะมีการปลุกไปทำวัตรเช้า ซึ่งมีการสวดภาวนา ร่ายรำถวายแด่เทพเจ้า และให้พรแก่ผู้เข้าร่วมพิธี ผู้เขียนเองเพิ่งเคยเข้าร่วมพิธีกรรมแบบนี้เป็นครั้งแรก สัมผัสได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์และมนต์ขลัง รู้สึกประทับใจมากๆ ค่ะ

นอกจากนี้บนเกาะคิงคะซังยังมีเส้นทางเดินเขา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อถึงยอดเขาจะมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของมหาสมุทรแปซิฟิกที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ช่วยให้ลืมความเหนื่อยล้าได้ในทันที และบนยอดเขายังมีศาลเจ้าโอวาดะสึมิ ซึ่งเป็นที่สถิตของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลให้ได้สักการะด้วย เส้นทางการเดินจะมีความชันเป็นบางช่วง ควรเตรียมพร้อมร่างกายและเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมค่ะ

อิชิโนะโทริอิ・一の鳥居

อิชิโนะโทริอิ คือเสาโทริอิต้นแรกของของศาลเจ้าคิงคะซัง โคะกะเนะยามะ ในอดีตสตรีไม่ได้รับอนุญาตให้ข้ามไปสักการะศาลเจ้าบนเกาะคิงคะซังได้ จึงต้องสักการะจากบริเวณเสาโทริอิต้นแรกแห่งนี้ แต่ปัจจุบันกฎข้อห้ามนี้ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว ส่วนเสาโทริอิต้นที่ 2 และ 3 ตั้งอยู่บนเกาะคิงคะซัง

สวนสาธารณะโอชิกะโกะบังโฉะ・おしか御番所公園

ในสมัยเอโดะแคว้นเซนไดเคยใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่เฝ้าระวังการบุกรุกของเรือต่างชาติ จึงเป็นที่มาของชื่อ โอชิกะโกะบังโฉะ (御番所 โกะบังโฉะ แปลว่า ป้อมยาม, ป้อมรักษาการณ์)
บริเวณจุดสูงสุดของสวนสาธารณะมีหอสังเกตการณ์ ที่สามารถชมทัศนียภาพของคาบสมุทรโอชิกะได้ทั้ง 360 องศา มองเห็นเกาะคิงคะซัง เกาะทาชิโระจิมะ และเกาะอาจิชิมะ ตรงบริเวณโดยรอบเป็นลานหญ้ากว้าง และมีม้านั่งให้ได้พักผ่อนไปพร้อมกับชื่นชมทัศนียภาพ

จุดชมวิวสึคิโนะอุระ・月浦展望台

จุดชมวิวแสนสงบตั้งอยู่บนไหล่เขาริมทะเล มีรูปปั้นที่สร้างเป็นอนุสรณ์แก่ ฮาเซกูระ สึเนะนางะ นักการทูตผู้ล่องเรือจากอ่าวสึคิโนะอุระแห่งนี้ ไปปฏิบัติหน้าที่ทูตเจริญสัมพันธไมตรียังทวีปยุโรป

เรือเซนต์จอห์นแบ๊บติส・サン・ファン・バウティスタ号

เรือเซนต์จอห์นแบ๊บติส เป็นเรือไม้สไตล์ตะวันตกที่สร้างขึ้นในแคว้นเซนได ซึ่งฮาเซกูระ สึเนะนางะ และผู้ติดตาม ใช้เป็นยานพาหนะเดินทางข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก ไปปฏิบัติหน้าที่ทูตเจริญสัมพันธไมตรีกับทวีปยุโรป ตามคำบัญชาของดาเตะ มาซามูเนะ ผู้ปกครองแคว้นเซนได เมื่อกว่า 400 ปีที่แล้ว

ส่วนตัวผู้เขียน หากมีใครถามว่าชอบเมืองไหนมากที่สุดในจังหวัดมิยางิ ก็ตอบได้อย่างเต็มปากเลยว่าเมืองอิชิโนะมากิ　เพราะเป็นเมืองที่เงียบสงบ แฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์ ธรรมชาติอันงดงาม และร่องรอยประวัติศาสตร์ ที่ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี และนำมาถ่ายทอดแก่คนรุ่นหลัง เผยให้เห็นวิถีชีวิตและความศรัทธาของชาวเมืองในสมัยนั้น

นอกจากนี้ยังเห็นถึงความพยายามของชาวเมืองและภาครัฐ ที่ร่วมแรงร่วมใจฟื้นฟูเมืองจากภัยพิบัติ จนอิชิโนะมากิกลับมาสวยงามและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เป็นเมืองที่ผู้เขียนอยากให้ทุกท่านได้ลองมาสัมผัสประสบการณ์ด้วยตนเองสักครั้งค่ะ