เรื่องราวของทองคำมิชิโนะกุ

เมืองวาคุยะอาจจะเป็นสถานที่ที่ไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก แม้กระทั่งในหมู่คนญี่ปุ่นด้วยกันก็ตาม แต่เสน่ห์ของเมืองขนาดกะทัดรัดแห่งนี้ซ่อนอยู่ในประวัติศาสตร์ที่ฝังร่างลึกนานนับพันปี ด้วยความที่เมืองแห่งนี้เป็นที่แรกในประเทศญี่ปุ่น ที่สามารถผลิตแร่ทองได้ ด้วยวิธีการการร่อนทอง (gold panning) ตามแหล่งน้ำลำธารในพื้นที่ จนเป็นต้นกำเนิดของความรุ่งเรืองทองคำของญี่ปุ่นในภายหลัง ทองคำของวาคุยะนั้นยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างพระพุทธรูปไดบุทสึที่นารา โดยทองคำที่ถูกส่งเป็นเครื่องบรรณาการจากวาคุยะนั้นมีจำนวนมากถึง 13 กิโลกรัมเลยทีเดียว ในปัจจุบัน เมืองวาคุยะนั้นมีสถานที่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ที่หาได้จากที่อื่นได้ยาก และมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

วัดคอนโปจิ
วัดคอนโปจิตั้งอยู่บนภูเขาโนโนะดาเกะ ที่เป็นจุดเด่นของเมืองวาคุยะให้กับผู้เดินทางผ่านไปมาตั้งแต่ในอดีต ด้วยความที่เป็นภูเขาที่มีต้นสนสูงใหญ่เรียงรายอยู่บนยอดเขา เห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล ทางวัดมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองฝึกนั่งสมาธิแบบญี่ปุ่น โดยจะแตกต่างจากของไทยตรงที่มีเบาะรองนั่งให้ และมีกลิ่นธูปอ่อนๆระหว่างนั่งสมาธิ นอกจากนี้ยังมีให้ทดลองเขียนบดสวดโดยใช้พู่กันแบบญี่ปุ่น ถือว่าเป็นประสบการณ์หายากที่สายธรรมะห้ามพลาด

ร้านอาหารสึคิมิจิ
ถ้าถามคนท้องที่ว่าปกติไปรับประทานอาหารกับครอบครัวที่ไหนกัน คำตอบของชาวเมืองวาคุยะส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้น ร้านสึคิมิจิ แห่งนี้ โดยเมนูหลักของร้านทสึคิมิจิคือแฮมเบิร์ก (เสต็กเนื้อบดสไตล์ญี่ปุ่น) ที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ และมีเมนูสำหรับนักท่องเที่ยวอย่าง “โคงาเนะฮิเมะ โกะเซ็น” ที่มีกิมมิคอย่างการประดับแฮมเบิร์กด้วยทองคำเปลวที่เป็นจุดเด่นของเมืองวาคุยะ แถมด้วยราเมงในเซ็ตอย่างจุใจ เรียกว่าได้ทั้งอิ่มและอร่อยในมื้อเดียว

พิพิธภัณฑ์เท็มเปียวโรมังคัง
ไม่มีสถานที่ไหนที่จะมีข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของเมืองวาคุยะแน่นไปกว่า พิพิธภัณฑ์เท็มเปียวโรมังคัง อีกแล้ว ตัวนิทรรศการมีการตกแต่งอย่างเรียบง่าย และมีเครื่องบรรยายพกพาที่มีภาษาอังกฤษไว้ให้บริการ รอบๆตัวพิพิธภัณฑ์มี ศาลเจ้าโคงาเนะยามะ ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 10 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานว่าที่นี่เป็นแหล่งทองแห่งแรก และมี ร้านชาคุงาเนะอัน ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองชาเขียวมัทฉะแบบต้นตำรับอีกด้วย

ทดลองร่อนทองด้วยตัวเอง
อีกฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจมากของพิพิธภัณฑ์เท็มเปียวโรมังคัง คือการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองทำการร่อนทอง ที่ชาวพื้นบ้านทำกันมาตั้งแต่ประมาณปีค.ศ.700กว่าๆ โดยใช้จานร่อนตักทรายที่เขาเตรียมไว้ให้ในบ่อ แล้วร่อนทรายออกจนเหลือแต่ทอง ซึ่งสามารถนำกลับเป็นของที่ระลึกอีกด้วย แถมสำหรับผู้ที่ต้องการความท้าทาย ทางพิพิธภัณฑ์ยังมีโปรแกรมให้นักท่องเที่ยวได้ไปร่อนหาทองที่ลำธารจริงๆ เป็นกิจกรรมที่ให้อารมณ์นักล่าสมบัติพอตัวเลยทีเดียว

สำหรับผู้ที่ตามหากิจกรรมที่ไม่ซ้ำเดิมในญี่ปุ่น วาคุยะอาจจะเป็นคำตอบของคุณก็ได้ครับ