เรื่องราวของทองคำมิชิโนะกุ

โทโฮคุ แผ่นดินทองคำ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ใน 6 ดินแดนประวัติศาสตร์ทองคำเขตโทโฮคุ ประเทศญี่ปุ่น

“ซิแพงกุ เป็นเกาะที่ยอดเยี่ยมมากและปริมาณทองคำที่พวกเขามีนั้นไม่มีที่สิ้นสุด” (Island of Zipangu) คำบอกเล่าของ มาร์โค โปโล นักสำรวจชาวอิตาลี ถึงดินแดนแห่งนึงในตะวันออกไกล ทำให้เกาะญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวต่างชาติ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ถึงต้นกำเนิดที่แท้จริงที่ทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นแดนทองคำที่เป็นที่กล่าวขานไปไกลข้ามมหาสมุทร ซึ่งทริปในครั้งนี้ของเรา จะเป็นการตะลุยไปในสถานที่ 6 แห่งในเขตภูมิภาคโทโฮคุ ที่เป็นแหล่งวัฒนธรรมทองคำในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น โดยในแต่ละที่ก็จะมีเรื่องราวและเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป เพื่อค้นหาอดีตแห่งดินแดนทองคำแห่งนี้ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย!

Roger Smith

ตำบลฮิราอิซูมิ

ทริปครั้งนี้ของเราเริ่มต้นที่ฮิราอิซุมิ พื้นที่ประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามอย่างวัดจูซนจิ (中尊寺) ที่มีวิหารทองคำที่เป็นมรดกโลก และวัดโมซือจิ (毛越寺) ที่มีสระน้ำกลางที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและมีทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะวัดจูซนจินั้นตั้งอยู่บนเขา ทำให้มีจุดชมวิวมากมาย นอกจากนี้ในฮิราอิซุมิยังมีจุดท่องเที่ยวอีกมากมายที่ผมประทับใจ อย่างเช่นศูนย์มรดกทางวัฒนธรรมฮิราอิซุมิ (平泉文化遺産センター) ที่เป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยวกึ่งพิพิธภัณฑ์ ที่ตกแต่งได้สวยและมีการให้ข้อมูลที่เข้าใจง่าย และที่สำคัญการเดินทางภายในบริเวณฮิราอิซุมิยังสะดวกมาก ไม่ว่าจะเป็นรถประจำทาง หรือรถจักรยานเช่าที่ให้บรรยากาศที่ต่างไปอีกแบบนึง

Ulala Tanaka

ตำบลวาคุยะ

ทริปต่อมาที่เมืองวาคุยะ ทางทัวร์ได้พาให้เราไปดูต้นกำเนิดของวัฒนธรรมการขุดหาทองในญี่ปุ่น ซึ่งเริ่มต้นด้วยการร่อนทอง ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 8 ที่เมืองวาคุยะแห่งนี้ และเรายังมีโอกาสได้ทดลองทำการร่อนทองด้วยตัวเองที่พิพิธภัณฑ์เท็มเปียวโรมันคัง (天平ろまん館) รวมไปถึงได้ลงพื้นที่จริงที่ลำธารที่เคยเป็นแหล่งร่อนทอง ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนที่อื่น ทางด้านตัวพิพิธภัณฑ์ก็มีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติของเมืองวาคุยะและการร่อนทอง โดยมีเครื่องบรรยายภาษาอังกฤษไว้ให้บริการอีกด้วย นอกจากนี้อีกแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองวาคุยะคือวัดคนโปจิ (箟峯寺) ที่ตั้งอยู่บนภูเขาโนโนะดาเกะ โดยที่วัดก็จะมีกิจกรรมอย่างการทดลองนั่งสมาธิแบบญี่ปุ่น และการทดลองเขียนบทสวดญี่ปุ่นด้วยพู่กัน เป็นอีกสองกิจกรรมที่ไม่ซ้ำใคร

Wesley Keppel-Henry

ตำบลมินามิซันริคุ

สำหรับใน มินามิซันริคุ (南三陸) เราได้มาเที่ยวที่ ภูเขาทัตสึงาเนะ (田束山) นอกจากทางขึ้นภูเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ทั้งสองข้างทาง วิวของเมืองมินามิซันริคุ และอิชิโนะมากิ (石巻) ที่ตัดกับอ่าวเคเซ็นนุมะ (気仙沼) ที่มองได้จากยอดภูเขาแห่งนี้เป็นทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งที่ผมเคยเห็นในญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าภูเขาแห่งนี้จะสวยมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วง แต่ถ้ามีโอกาส ผมก็อยากกลับมาดูสวนดอกไม้ของภูเขาทัตสึงาเนะที่เต็มไปด้วยดอกสึสึจิสีชมพูที่จะบานสะพรั่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ในเรื่องของอาหารการกิน ข้าวหน้าไข่ปลาแซลมอนที่เป็นของขึ้นชื่อของมินามิซันริคุก็อร่อยไม่แพ้กัน

Takeru Kasama

เมืองเคเซ็นนุมะ

ที่เคเซ็นนุมะ (気仙沼) ทัวร์ได้พาเรามายังเหมืองทองโอยะที่เป็นตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมของคนในละแวกนี้ ถึงแม้ว่าตัวเหมืองทองเองจะปิดตัวไปแล้ว แต่อุตสาหกรรมเหล่านั้นกลับยังมีอิทธิพลกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนในละแวกนี้มากพอสมควร นอกจากเหมืองทองโอยะแล้ว พวกเรายังได้ลองผลิตเกลือจากน้ำทะเลที่แหลมอิวาอิซากิ ที่น่าแปลกใจก็คือเกลือที่ทำจากน้ำทะเลขวดเดียวกัน กลับมีรสชาติแตกต่างเป็นเอกลักษณ์ขึ้นอยู่กับฝีมือของแต่ละคน นอกจากนี้ แหลมอิวาอิซากิยังมีทัศนียภาพของท้องทะเลและมหาสมุทรที่สวยงาม และมีบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนและทอดใจไปกับท้องทะเลมาก ๆ ถ้าได้มาเยือนที่นี่ในเวลากลางคืนก็จะพบว่าท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวสุกสว่าง โดยมีผืนหลังเป็นภูเขา ซึ่งไม่ใช่ทิวทัศน์ที่หาได้ง่าย ๆ ในยุคนี้

Takeru Kasama

เมืองริคุเซ็นทาคาตะ

อย่างที่ได้เกริ่นไปว่าในละแวกนี้ อุตสาหกรรมเหมืองทองมีอิทธิพลกับผู้คนมากพอสมควร ริคุเซ็นทาคาตะก็มีเหมืองทองบนภูเขาทามะยามะเป็นของตัวเอง ที่พิเศษไปกว่าเหมืองทองโอยะคือ ที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปลองสำรวจพื้นที่ภูเขาและนำแร่ควอตซ์ที่เป็นผลพลอยได้ของเหมืองทองกลับบ้านไปเป็นที่ระลึกด้วย โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ในส่วนท้ายของทริป พวกเราได้มาเยือนพิพิธภัณฑ์สึนามิแห่งริคุเซ็นทาคาตะ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมชายฝั่งของริคุเซ็นทาคาตะ นอกจากทัศนียภาพและบรรยากาศริมทะเลที่สวยงามมาก ๆ แล้วที่นี่ยังมีเรื่องราวมากมายรอให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเรียนรู้ ยกตัวอย่างเช่น ต้นสนแห่งปาฏิหาริย์ ฯลฯ สำหรับเรื่องปากท้องที่ริคุเซ็นทาคาตะ ซาชิมิหอยโฮตาเตะ หรือหอยเชลล์ที่นำมาทานคู่กับสาหร่ายวากาเมะสด “โฮตะวากะโกะเซ็น” ก็เป็นอีกรสชาตินึงที่หาไม่ได้ง่าย ๆ ในญี่ปุ่นเลยครับ

Kelly Catrina

อิชิโนะมากิ (石巻市) เมืองที่สะท้อนให้เห็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ ความเจริญรุ่งเรือง และความศรัทธาของผู้คนในสมัยก่อน ผ่านทางสถานที่สำคัญ เช่น ศาลเจ้าคิงคะซังโคะกะเนะยามะ (金華山黄金山神社) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการขุดแร่ทองคำเป็นครั้งแรกของญี่ปุ่น และพิพิธภัณฑ์เรือเซนต์จอห์นแบ๊บติส (サン・ファン館) ที่บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของคณะทูตเคโจ ที่ออกเดินทางจากเมืองอิชิโนะมากิ ไปยังทวีปยุโรป เพื่อเจรจาทางการทูต

และยังมีพิพิธภัณฑ์เมืองอิชิโนะมากิ (石巻市博物館) ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองอิชิโนะมากิ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์การ์ตูนอิชิโนะโมริ (石ノ森萬画館) ซึ่งรวบรวมประวัติและผลงานของ อิชิโนโมริ โชทาโร่ ศิลปินชาวมิยางิ ผู้สร้างสรรค์ผลงานชื่อดังเรื่องคาเมนไรเดอร์ รวมทั้งโอชิกะเวลทาวน์ (おしかウェールタウン) จุดที่ให้ความรู้เกี่ยวกับวาฬ และฐานปฏิบัติการล่าวาฬในอดีต

Takeru Kasama

นอกจากนี้ ยังเต็มไปด้วยสถานที่ทำกิจกรรมและพักผ่อนหย่อนใจ ทั้งลานกางเต็นท์โอชิกะคะโซะคุเรียวโคมุระ (おしか家族旅行村オートキャンプ場), จุดชมวิวสึกิอุระ (月浦展望台), สวนสาธารณะโอชิกะโกะบังโฉะ (牡鹿御番所) ซึ่งทุกที่ล้วนมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของมหาสมุทรแปซิฟิก ที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา หรือหากใครต้องการซื้อของฝากและลิ้มรสอาหารอร่อย ขอแนะนำตลาดอิชิโนะมากิเก็งคิอิจิบะ (いしのまき元気いちば) ที่มีทั้งร้านอาหารและร้านของฝาก ซึ่งมาจากอุตสาหกรรมภายในเมือง ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีครบทั้งประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม และกิจกรรมให้ได้เพลิดเพลิน

 

สุดท้ายนี้ ตลอดเส้นทางการเดินทางในทริปนี้อาจจะดูแปลกตาไปจากสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไปในญี่ปุ่นบ้าง แต่ถ้าต้องการที่จะสัมผัสกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่น ซิแพงกุ หรือดินแดนทองคำในภูมิภาคโทโฮคุก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่พลาดไม่ได้เลยทีเดียว

Takeru Kasama

โปรแกรมท่องเที่ยว

รายละเอียดการเดินทาง


สถานที่ท่องเที่ยว

Home โทโฮคุ แผ่นดินทองคำ