เรื่องราวของทองคำมิชิโนะกุ

ริคุเซ็นทาคาตะ (Rikuzentakata, 陸前高田) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในตอนใต้ของจังหวัดอิวาเตะ ในปี 2011 เมื่อเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ริคุเซ็นทาคาตะเป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดเมืองหนึ่งของญี่ปุ่น เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 1,000 คนและสูญหายอีก 1,300 คน นับตั้งแต่ภัยพิบัติในครั้งนั้น ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องก็ยังคงพยายามที่จะฟื้นฟูริคุเซ็นทาคาตะให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมทำให้บรรยากาศในเมืองนี้เต็มไปด้วยประกายแห่งความหวังที่ซ่อนอยู่ภายใต้แววตาของทุกคน

พิพิธภัณฑ์สึนามิของจังหวัดอิวาเตะ เป็นที่ตั้งของต้นสนปาฏิหาริย์ที่ยืนหยัดอยู่ได้เพียงหนึ่งเดียวจากต้นสน 70,000 ต้นหลังจากสึนามิได้ถาโถมเข้าใส่ชายฝั่งของริคุเซ็นทาคาตะเมื่อปี 2011 ในเวลาต่อมา ต้นสนต้นนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังของผู้คนท่ามกลางความสูญเสียที่เกิดขึ้น ผมค่อนข้างรู้สึกประทับใจกับความพยายามของเมืองนี้ที่พยายามรณรงค์และป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นอีก

ริคุเซ็นทาคาตะยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น ภูเขาทามะยามะ ที่เป็นสถานที่ตั้งของเหมืองทองขึ้นชื่อ ทามายามะเป็นภูเขาที่เหมาะแก่การมาชมใบไม้เปลี่ยนสีมากในช่วงเดือนพฤศจิกายน ตลอดสองข้างทางระหว่างเดินทางขึ้นภูเขาเต็มไปด้วยต้นไม้สีแดง เหลือง และส้ม และที่ภูเขาทามายามะ ผู้มาเยือนสามารถค้นหาและนำแร่ควอตซ์ที่เป็นผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้จากการขุดทองติดมือกลับไปบ้านได้ หลังจากที่ได้เดินเที่ยวชมและค้นหาแร่ควอตซ์แล้ว ภูเขาทามายามะก็ยังมีบ่อน้ำพุร้อนที่มีสรรพคุณช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าด้วย สำหรับใครที่ชอบเที่ยวในเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ริคุเซ็นทาคาตะก็ยังมีวัดโชกนจิที่เป็นที่ตั้งของต้นสนที่บิดย้อนหลัง โดยชาวบ้านท้องถิ่นเชื่อว่าต้นสนต้นนี้เป็นตัวแทนของวัฒนธรรมของชาวบ้านในอดีต ที่ต้องการจะหวนกลับไปยังเหมืองทองที่ถูกปิดไปในอดีต วัดโชกนจินั้นเปรียบเหมือนเป็นสถานที่รวมตัวของชาวบ้านที่จะมาทำกิจกรรมร่วมกัน โดยชาวบ้านนั้นใจดีมาก ๆ พร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเป็นอย่างดี

สำหรับอาหารขึ้นชื่อของเมืองริคุเซ็นทาคาตะ ก็หนีไม่พ้นอาหารทะเลอย่างเช่น หอยโฮตาเตะ หรือหอยเชลล์ ที่นำมาทำซาชิมิแล้วรับประทานคู่กับชาบูสาหร่ายวากาเมะ ชาบูสาหร่ายวากาเมะนั้นเรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของริคุเซ็นทาคาตะเลยทีเดียว สาหร่ายวากาเมะสด ๆ ที่มีความกรุบกรอบนำมาทานเป็นชาบูคู่กับน้ำจิ้มที่ผ่านการปรุงรสเป็นอย่างดี จนทำให้อยากกลับไปรับประทานอีกครั้ง

ตัวผู้เขียนเองได้มีโอกาสไปเยือนชายฝั่งทะเลของญี่ปุ่นหลายครั้ง แต่การทอดสายตาออกไปยังมหาสมุทรจากชายฝั่งของริคุเซ็นทาคาตะกลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปจากทุกครั้ง มันเป็นอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความหดหู่ ความเศร้าจากความโหดร้ายของธรรมชาติ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังสัมผัสได้ถึงความหวังของชาวเมืองที่พยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้ริคุเซ็นทาคาตะได้กลับมายืนหยัดอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งหนึ่ง การมาเยือนริคุเซ็นทาคาตะจึงนับเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่หาไม่ได้จากที่ไหนเลยจริง ๆ